วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

P34

"บุกจู่โจมตรวจค้นนักโทษเรือนจำกลางระยองฮิ!!"





*** ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า นายชัยณรงค์ เศวตจินดา ผู้บัญ ชาการเรือนจำกลางจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปราโมทย์ คงคาลัย หัว หน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดระยอง(หน.นปพ.ระยอง) และนายจีระศักดิ์ ตะปะโจทย์ ป้องกันจังหวัดระยอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสา สมัครรักษาดิน แดนกว่าร้อยเข้าตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือน จำกลางจัง หวัดระยอง หมู่ 9 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

*** จากการตรวจค้น ได้พร้อมของกลางสิ่งต้องห้ามบางชนิด เช่น เข็มสักลาย มีดปอกผลไม้ แหนบถอนผม ช้อนส้อมต่างๆ จึงยึดไว้เป็นของกลาง เจ้าหน้าที่ ได้เรียกผู้ต้องขังออกจากโรงนอนตามแดนต่างๆ มาอยู่รวมกันและจู่โจมเข้าตรวจค้นตามโรงนอนต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 6 โรงนอน โดยผู้ต้องขังต่างแตกตื่น เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางต้องใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ต้องขังอยู่ในความสงบ และควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดไม่มีเหตุอันใด*** นายชัยณรงค์ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ว่า ในการตรวจค้นครั้งนี้ได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย 20 นาย ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา 20 นาย ตำรวจ สภ.ปลวกแดง 20 นาย กำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดระยอง20 นาย กำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.นิคมพัฒนา 10 นาย กำลังอาสาสมัคร รักษาดินแดน อ.ปลวกแดง 10 นาย และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษเรือนจำกลาง 20 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางระยอง 50 นาย เข้าจู่โจมพื้นที่แดนเป้าหมายเพื่อตรวจค้นสิ่งต้องห้ามหรือยาเสพติดต่างๆ

*** สำหรับ รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างจริงจังโดยได้มอบนโยบายและได้สั่งการให้กระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้องไปดำ เนินการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดตามภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล โดยการปิดล้อม ตรวจค้น จุบกุม เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายยาเสพติดแพร่ระบาดไปยังกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ต้องขังในเรืองจำกลางระยอง

*** เรือนจำกลางระยอง มีภารกิจหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามคำพิพากษาของศาล และคำสั่งของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ กรมราชทัณฑ์กำหนดให้เรือนจำกลางระยองเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษสูงสุดตลอดชีวิต ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 4,223 คน (ผู้ต้องขังชาย 3,5 44 คน ผู้ต้องขังหญิง 679 คน) ในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด จำนวน 2,316 คน คิดเป็น 53.40% ของผู้ต้องขังทั้งหมด ผู้ต้องขังยาเสพติดบางส่วนมีกำหนดโทษสูง ย้ายมาจากเรือนจำและทัณฑสถานอื่น เช่น เรือนจำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมถึงเรือนจำ และทัณฑสถานภาตตะวันออก

*** ซึ่งผู้ต้องขังดังกล่าวบางกลุ่มจะมีบุคคลภายนอกซึ่งมีอิทธิพลทางการเงินมีขบวนการค้ายาเสพติดคอยให้ความช่วยเหลือดูแลอยู่ตลอดเวลา เช่น มีการแอบซุกซ่อนยาเสพติดหรือโทรศัพท์มือถือส่งเข้าไปในเรือนจำ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อซื้อขายยาเสพติดทางโทรศัพท์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามตัดวงจรไม่ให้ยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามหลุดเข้าไปในเรือน จำ และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการผลิต ซื้อขายยาเสพติดในทุกพื้นที่ของจัง หวัดระยอง เป็นการดำเนินงานตามนโยบายภารกิจเร่งด่วนของกระทรวงยุติ ธรรม และกระทรวงมหาดไทย

*** ดังนั้น เรือนจำกลางระยองจึงได้ทำโครงการ “ตรวจค้นยาเสพติดและสิ่ง ของต้องห้ามในเรือนจำ” ขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำงานบูร ณาการสนธิกำลังร่วมกันโดยมีเป้าหมายในการจู่โจมตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษที่เรือนจำกลางจังหวัดระยอง

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจค้นครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ยาเสพติด และสิ่งของต้องห้ามอยู่ในเรือนจำ เป็นการตัดวงจรผู้ค้า ผู้ผลิต และผู้เสพให้ลดจำนวนลงหรือหมดไปในที่สุด ปัญ หาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระยองได้รับการแก้ไขและเบาบางลง เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันในการป้องกันปราบปรามในการแพร่ระ บาดของยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและดำเนินงานตามเป้าหมายของรัฐบาลตามลำดับต่อไป.