วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

P39

"ลูกน้ำเค็ม"






***ทำกินถิ่นไทย- ทะเลอันกว้างใหญ่ไพรศาล ปลาน้อยใหญ่กระโดนโลดเต้นเล่นน้ำอย่างสำราญ แต่ต้องมาสิ้นฤทธิ์เฒ่าพรานทะเลวัยเกษียณ ฝีมือระดับเซียนหากินด้วยลำแข้งของตน แม้นจะอายุมากเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง แต่ไม่เคยสิ้นหวังไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะสิ่งที่เกิดมากับคำว่า "ลูกน้ำเค็ม" ได้ปลามากน้อยแค่ไหนก็ยังภูมิใจในสิ่งที่หามา แม้นจะน้อยค่าถ้าเปรียบเงินตราของผู้คนอีกมากมายที่จับจ่ายใช้สอยในสังคมปัจจุบัน

P38

"นักกีฬาทีมชาติ"





***ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตนเองนั้นเคยเป็นเด็กมาก่อน ความฝันของเด็กๆทุกคนมักอยากที่จะเป็น "ฮีโร่" หรือ "ยอดมนุษย์ผู้ผดุงความยุติธรรม" ความเพ้อฝันเหล่านั้นเป็นจริงไม่ได้ แต่สิ่งที่เป็นจริงได้ก็คือ "การเป็นยอดนักกีฬาทีมชาติ" ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ อยู่บ้านนอกหรืออยู่ในตัวเมือง รวยหรือจน หรือแม้แต่กระทั่งคนพิการ หากคุณมีใจที่เข้มแข็ง มีการพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ คุณก็มีสิทธิ์ที่จะเป็น"ยอดนักกีฬาทีมชาติ" ดูตัวอย่างเด็กหญิงในภาพ ท่ามกลางสายตาจากเพื่อนๆที่จดจ้อง ส่งแรงใจเป็นพลังไปให้เธอสามารถกระโดดผ่านเครื่องขีดขวางได้ อนาคตของเธอจะต้องเป็น "นักกีฬากระโดดสูงทีมชาติ" ได้แน่ๆ แล้วพวกคุณล่ะคิดเหมือนผมมั๊ย?

P37

"ชาวบ้านฉางเมืองฮิ..แตกตื่นผีกระสืออาละวาด!! ด็กกลัวขวัญผวาอาจารย์ดังเตือนระวังสติแตก.. "





*** เรื่องราวของความเชื่อส่วนบุคคล..ชาวบ้านร้านค้ากลุ่มหนึ่งในหมู่บ้านห้วยมะหาด-เขาภูดร หมู่ 7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ว่า ขณะนี้ชาวบ้านฉางต่างพากันหวาดผวา “ผีกระสือ” อาละวาด และเชื่อกันว่า..กระสือ เป็นผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้ หญิงและชอบกินของโสโครก คู่กับ "กระหัง" ซึ่งเข้าสิงในตัวผู้ชาย กระทั่งข่าวแพร่สะ พัดเรื่องผีกระสืออาละวาดไล่ฟัดสัตว์ปีกในเล้าไก่ตาย แพร่กระจายไปทัวหมู่บ้าน..

*** ชาวบ้านฉางลือผีกระสืออาละวาดแพร่กระจาย ปรากฏว่า มีชาวบ้านพบเห็นผีกระสือในช่วงกลางคืน เวลา 02.00- 03.00 น.แทบทุกคืน สร้างความหวาดผวาให้กับลูกเด็กเล็กแดงชาวบ้านร้านค้าต่างกลัวกระสือไม่กล้าออกจากบ้านหลังจากตะวันลับฟ้า ส่งผลให้ชาวบ้านต้องหาทางป้องกันแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องผีกระสือ พร้อมสั่งห้ามไม่ให้เด็กเล็กออกนอกบ้านในเวลากลางคืนอย่างเด็ดขาด หากหมู่บ้านไหนไม่เชื่อก็ตามใจ พวกเราไม่ได้งมงาย!! แต่เป็นการป้องกันและเตรียมหาหนามไฝ่และแหไว้เหวี่ยงทอดครอบกระสือกันแล้ว เพราะที่ผ่านมา ชาวบ้านพบเห็นกระสือลอยวับว๊าบ ๆ เข้าไปตามบ้านและเล้าไก่ หลังจากนั้นพอรุ่งเช้าไปดูก็แจอซากไก่-และเป็ดถูกกัดกินไส้อย่างนี้เป็นประจำ

*** นายอุดม แสงเทียนชัย อายุ 57 ปี ชาวบ้านร้านค้าหมู่บ้านภูดร-ห้วยมะหาด หมู่ 7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เล่าให้ทีมข่าวนสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ฟังว่า เมื่อสมัยหนุ่มๆตนเคยใช้สุ่มไก่ช่วยกันไล่ครอบผีกระสือ เมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้วที่บ้านนอก จนกระทั่งพบเรื่องราว..ผีกระสือตัวเป็นๆอาลาวาดในหมู่บ้านภูดร-ห้วยมะหาดของเรา!! และคนโบ ราณครั้งปู่ย่าตายายได้เคยเล่าต่อกันมาว่า กระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบกินของสดๆคาวๆ มักจะออกหากินเวลากลางคืน และไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปไหนจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีเขียวเหลืองวามๆ

*** ถ้าหากบ้านใครคลอดลูกใหม่ๆ มีกลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนำให้ผีกระสือมา และลอยเข้าไปกินตับไตไส้พุงของหญิงที่คลอดลูก หรือรกเด็กแรกคลอด ล่าสุด..ไก่ในเล้าหายแทบทุกวันต่างช่วยเฝ้าคอยดู ปรากฏว่า ชาวบ้านเห็นแสงไปแว๊บวาบๆ ลอยมาในที่มือแล้วหวลเข้าไปในเล้าไก่ พอรุ่งเช้าพบว่าไก่ตายถูกกัดกินเหลือแต่ซี่โครงและขนปีกกระจายเกลื่อน ต่างปักใจเชื่อกันว่าเป็นผีกระสือแน่นอน จึงช่วยกันตัดหนามไม้ไฝ่และหนามพุทราสะ นำมาล้อมไว้บริเวณรอบบ้านและใต้ถุนเรือนที่มีร่องรูตามพื้นต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามาได้ ต่างเชื่อว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้ทำให้มันไม่กล้าเข้ามา*** ดังนั้น นอกจากของสดของคาวแล้ว กระสือยังชอบของโสโครกเช่นอุจจาระเป็นต้น เมื่อกินเสร็จแล้วเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ก็เข้าไปเช็ดปาก ผ้านั้นจะปรากฏเป็นรอยเปื้อนดวง ๆ ถ้าเอาผ้านั้นไปต้มกระสือจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนปากทนไม่ไหวจนต้องมาขอร้องไม่ให้ต้มต่อไป กระสือนั้นเมื่อเจ็บจวนจะตายก็ไม่ตายง่าย ๆ ต้องคายน้ำลายของตนถ่ายเข้าปากลูกหลานคนใดคนหนึ่งไว้ให้สืบทายาทเป็นกระสือต่อก่อน ตนจึงจะตายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป การปราบกระสือนั้น ไม่สามารถไล่ผีที่มาสิงสู่ออกจากร่างเหยื่อได้ ว่ากันว่าวิญญาณนั้นได้หยั่งลึกลงในใจของคนๆ นั้นแล้ว ฉะนั้น!! การปราบกระสือก็เท่า กับต้องฆ่าคนๆนั้นไปเลย

*** ด้านยายเขียว พันนาม อายุ 82 ปี อดีตหมอตำแยสมัยโบราณ เดิมเป็นคนอยู่ป่าดงดิบมาก่อน เล่าให้ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ฟังว่า..เมื่อครั้งที่ยายเป็นเด็กเคยเห็นครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอยู่กันพร้อมทั้งหน้าพ่อ-แม่และลูก โดยอยู่มาวันหนึ่งในตอนกลางคืน ผู้เป็นพ่อได้ออกไปธุระข้างนอกบ้าน ผู้เป็นแม่ปิดประตูอยู่ในห้อง แล้วนางก็หยิบเอาขวดน้ำมันมนต์มาทารอบคอ สักพักหัวกับตัวของนางก็แยกออกจากกันโดยมีตับไตไส้พุงห้อยติดออกมาด้วย เวลาที่ออกหากินจะเห็นเป็นแสงสีเหลือง และมีเสียงดังดุจลมพัดตลอดเวลาที่นางลอยไปเพื่อขับไล่สัตว์เล็กสัตว์น้อยที่จะเข้ามายุ่งกับพวงไส้ของนาง

*** หลังจากนั้น ผู้เป็นลูกเคยแอบเห็นแม่ทำจึงลองเอาน้ำมันมนต์ของแม่มาลองทาดูบ้าง ขณะที่หัวกำลังจะแยกออกจากตัว เด็กน้อยเกิดกลัวจนร้องโวยวายออกมาว่า "ช่วยด้วย หัวของฉันกำลังจะหลุดออกจากตัวแล้ว" จนชาวบ้านละ แวกนั้นได้ยินกันทั่ว แต่ไม่มีใครกล้าเยี่ยมหน้าเข้ามาให้ความช่วยเหลือ กระทั่งหัวของผู้เป็นแม่ลอยกลับมา เสียงร้องโวยวายก็เงียบลง หลังจากวันนั้น ครอบครัวนั้นก็ย้ายหนีไปจากที่นั่น และไม่มีใครได้พบเห็นอีกเลย กระทั่ง ปรากฏว่า มีข่าวแพร่สะพัดชาวบ้านร้านค้าลูกเด็กเล็กแดงต่างพากันหวาดกลัวผีกระสืออาละวาดกินเป็ดไก่ ได้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเขาภูดรแล้ว

*** โดยครั้งสมัยโบราณ เมื่อบ้านใดมีหญิงตั้งครรภ์ ชาวบ้านมักจะเชื่อกันว่า กระสือจะ ต้องไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อกินรกเด็กอย่างแน่นอน จึงมักนำปลายไม้แหลมๆ และหนามไฝ่มาล้อมบ้านไว้ป้องกันผีกระสือเข้ามาบริเวณบ้านคลอดลูก เพราะเชื่อว่า เป็นสิ่งที่กระสือกลัวและเกลียดมากที่สุด เพราะเมื่อใดที่กระสือนั้นเข้าไปใกล้สิ่งของแหลมๆเหล่านั้น ไส้อันระโยงระยางของมันจะไปเกี่ยวกับไม้ และเป็นการยากที่จะไปได้เลย

*** ทางด้าน พระสุพรรณ(อนุตุตโร) หรือ(อาจารย์พระเตี๊ย) อายุ 61 ปี ศิษย์ก้นกุฏิอา จารย์ชื่อดังทางภาคตะวันออก แห่งวัดเขาภูดรนิ่มเสนาะ หมู่ 7 บ้านภูดรห้วยมะหาด ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังจากทราบว่า..ชาวบ้านร้านค้าหมู่บ้านเขาภูดร-ห้วยมะหาด ต่างพากันแตกตื่นเรื่องผีกระสืออาละวาด..ทำให้ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วสารทิศ!!และบรรดาลูกเด็กเด็กแดงต่างหวั่นวิตกกังวลกลัวกันมาก ไม่กล้าจะออกไปไหนในเวลากลางคืน ต่างปักใจเชื่อกันว่าผีกระสือจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องผีกระสือ อาตมา..ขอฝากเตือนประชาชนชาวบ้านร้านค้าอย่าตื่นตนกเกินไป จะทำให้เสียสติได้!! ถ้าหากกลัวมากให้ไปรดน้ำมนต์ที่วัดฯ และขอวัตถุมงคลไว้แขวนป้องกันเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจได้ เผื่อจะได้หายหวาดผวากันไปได้บ้าง? อาตมาไม่ได้ห้ามให้เชื่อ!! แต่เตือนสติว่า..อย่างมงายจนเกินไป ยุคนี้กับเมื่อสมัยก่อนนั้นจะแตกต่างกันมากนะโยม ควรเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ!! เจริญพร...

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า ความเชื่อเรื่องกระสือนี้มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนไทยโบราณและปัจจุบันหลายประการด้วยกัน เป็นต้นว่า 1.ผลกล้วยที่แกร็นทั้งเครือ จะเรียกว่า"กล้วยกระสือดูด" 2.คนตะกละกินหรือคนที่กินอย่างสวาปาม จะเรียกว่า "คนตะกละเหมือนผีกระสือ" หรือ "คนกินเหมือนผีกระสือ" 3.โคมชนิดหนึ่งซึ่งมีที่เปิดปิดไฟได้และมีแว่นฉายแสงไปได้วาบ ๆ เรียกว่า "โคมตาวัว" หรือ "กระสือ" 4.ไพลชนิดหนึ่งซึ่งเรืองแสงได้ในที่มืด เรียกว่า "ว่านกระสือ" อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับเรื่องผีกระสือ ถือเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ อะไรได้ ส่วนตัวตนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องผีสางหรือไสยศาสตร์มากนัก แต่เมื่อมาเจอเห็นกับตาเอง ก็ถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน แต่ก็อย่างมงายเกินไป นะขอรับ !?!

P36

"เสี่ยชาญเจ้าของปั้มน้ำมันปตท.บ้านฉางเจ๋ง รับโล่รางวัลเหรียญทองปั้มบริการยอดเยี่ยม"






*** ปัจจุบัน พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยนั้น ปรากฏว่า..มีผู้บาดเจ็บและเสีย ชีวิตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนเดินเท้า คนขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งสาเหตุของปัญหานั้นเกิดจาความประมาณพลาดพลั้ง ขาดความรู้ ความเข้าใจในการใช้รถยนต์ถนน ไม่ศึกษากฎจราจรให้ถ้วนถี่ รวมทั้งการดื่มสุราและของมึนเมาแล้วมาขับขี่ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านบาทต่อปี ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียงบประมาณและทรัพยากรมมนุษย์ไปโดยใช่เหตุ จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกันรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุ

*** ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ อาสาพาไปพบ..เสี่ยชาญ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้จัดการ เจ้าของปั้มน้ำมันปตท.บ้านฉาง(หจก.ชัยบราเดอร์พา ราวู๊ด) คนดีมีน้ำใจท่านหนึ่ง อยู่เลขที่ 84/3 หมู่ 1 ถนนสุขุมวิท ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เป็นปั้มน้ำมันที่บริการดีเยี่ยม มีที่จอดพักหยุดรถโดยสารประจำทางต่างๆ ทั้งห้องน้ำสะอาดดีจริงๆ กระทั่งได้รับโล่รางวัลยอดเยี่ยมแห่งปี โดย..เสี่ยชาญ ชัยเลิศวณิชกุล หจก.ชัยบราเดอร์พาราวู๊ด(ปตท.) ได้รับรางวัลชนะเลิศ (ประเภทส้วมสาธารณะในสถานบริการปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง จากการประกวด“ส้วมสาธารณะดีเด่นระดับจังหวัดระยอง ประจำปี 2550” สม ควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จาก..นพ.วิวัฒน์ วิริยะกิจจา สาธารณสุขจังหวัดระยอง และนายพลวัติ ชยานุวัชร ผวจ.ระยอง ต่อมา ได้รับโล่รางวัลยอดเยี่ยม จาก..ศูนย์อนามัย ที่ 3 ชลบุรี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะ ได้มอบโล่รางวัลส้วมดีเด่นระดับเขต ปี 2550 ประเภทส้วมสาธารณะ ในสถานีบริการน้ำมัน จาก..นพ.ชัยพร พรหมสิงห์ ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 3 ชลบุรี และได้รับโล่รางวัลสถานีบริการดีเด่น 2550 ส่วนขายภาคกลาง หจก.ชัยบราเดอร์พาราวู๊ด จาก..นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)

*** นายชาญ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้จัดการ เจ้าของปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านฉาง (หจก.ชัยบราเอร์พาราวู๊ด) เปิดใจกับทีมข่าวว่า..ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตรถ ยนต์ได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก ทำให้เครื่องยนต์เผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัย หลายวิธีและเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้ประหยัดพลังงาน ในการเดินทางได้มากกว่าเดิม ด้วยการเติมน้ำมันอย่างประหยัด ใช้รถยนต์อย่างคุ้มค่า ใช้แผนที่ประกอบการเดิน ทาง เพื่อเลือกทางที่ใกล้ที่สุด หรือใช้เวลาน้อยที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานหรือลดความสิ้น เปลืองของเชื้อเพลิง คิด..ก่อนเดินทาง คิดถึงความจำเป็นในการเดินทางแต่ละครั้ง เพื่อลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และวาง แผนก่อนเดินทางไกล หาเพื่อนร่วมทางเดียวกันเพื่อความประหยัด หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือช่วงเทศ กาลวันหยุดติดต่อกันหลายวัน

*** สำหรับ โชว์เฟอร์ควรรู้จักการขับรถเดินทางให้ปลอดภัยและประหยัดมันมันกันดีกว่า การบำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และไส้กรองอากาศอย่างน้อยทุกๆ 5,000 กม. เพื่อให้การเผาไหม้ในเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งทำให้ไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อ เพลิง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กม.(หรือ 10.000 กม. ถ้าใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์) ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์,น้ำมันเฟืองท้าย,น้ำมันเบรก,น้ำยาหม้อน้ำทุกๆ 30,000 กม. หรือ 1 ปี ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำในแบตเตอรี่ รอยรั่วในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง หากพบสิ่งผิดปกติ ให้ดำเนินการซ่อมหรือเปลี่ยนโดยเร็ว ปรับปรุงสมรรถนะของรถยนต์ตลอดเวลา จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ 3-9 ควรตรวจสอบเดินเบาของเครื่อง ยนต์ รอบเดินเบาที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 750-850 รอบ/นาที หรือในระดับที่เครื่องยนต์ทำงานเงียบที่สุด

*** นายชาญ ผู้จัดการปั้มน้ำมันปตท.บ้านฉาง กล่าวทิ้งท้ายว่า..ขับรถอย่างถูกวิธี ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ก่อนออกรถ เพราะเร่งเครื่องก่อนออกรถทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น ไม่ควรติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถคอย ขับรถที่ความเร็วเหมาะสม 60-80 กม./ชม. น้ำมันจะถูกเผาผลาญมากขึ้นประมาณ17 %ใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็วรอบเครื่องยนต์ หลีกเลี่ยงการใช้เบรกโดยไม่จำ เป็น เพราะจะทำให้อายุการใช้งานของเบรกสั้นลง และสิ้นเปลืองน้ำ มันโดยไม่จำเป็น ไม่บรรทุกสิ่งของเกินพิกัด ตรวจ เช็ครถยนต์ตามระยะที่กำหนด เพื่อเป็นการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆไม่ให้สึกหรอ และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไม่สิ้นเปลืองน้ำมัน หลีกเลี่ยงสภาพถนนที่ไม่ดี ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำมันเพิ่มขึ้น ใช้เชื้อเพลิงและหล่อลื่นที่เหมาะสม ใช้น้ำมันให้ถูกชนิด น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความต้องการของรถ นอกจากจะแพงแล้วยังไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มต่อเครื่องยนต์อต่อย่างใด เลือกใช้ผลิต ภัณฑ์ล่อลื่นที่มีคุณภาพจากบริษัทผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและวางใจได้ โดยเลือกใช้เกรดมาตรฐานดีที่สุด

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ใช่เวรกรรม แต่เป็นการกระทำโดยประมาท “เมาแล้วขับ หลับไม่ตื่น พื้นไม่มี หนีไม่พ้น” คือ..ความตาย!! ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยายยนต์ หรือรถยนต์ชนิดต่างๆ ควรเติมน้ำมันหรือแก๊ส ตรวจดูสภาพรถยนต์,จยย.ให้เรียบร้อย จากนั้นขอพรคุณพระบิดา-มารดา แล้วเดิน ทางไปด้วยความไม่ประมาท จะทำให้โชคดีมีชัยถึงที่หมายด้วยความปลอดภัยแคล้วคลาด ด้วยความปราภนาดีจาก..เสี่ยชาญ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้จัดการ ปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านฉาง หจก.ชัยบราเดอร์พาราวู๊ด ถนนสุขุมวิท ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เชิญทุกท่านใช้บริการน้ำมัน ปตท. เพื่อคนไทย

P35

"เทศกาลวันไหลบ้านฉางสรงน้ำพระร้อยสิริมงคลอลังการไปเที่ยวงานยกพระซุ้ม"






*** “วันไหลบ้านฉาง” ที่วัดสุวรรณรังสรรค์ อยู่ในท้องที่เขตเทศบาลตำบลสำนักท้อน ถนนบ้านฉาง-ยายร้า ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยในงานประเพณีสงกรานต์ของทุกปี ซึ่งมีพิธีการ "ยกพระซุ้ม สรงน้ำพระร้อย พบว่าบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการพ่อค้าแม่ค้าประชาชน ในพื้นที่ร่วมกันจัดงาน “วันไหลระยอง”

*** โดยมีพิธี “ยกพระซุ้ม” และ “สรงน้ำพระร้อย” เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ที่วัดสุวรรณรังสรรค์ โดยมีพระครูวรธรรมโฆษา ภิรักษ์ เจ้าคณะอำ เภอบ้านฉาง เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ และพระครูสันติบูรพาทิศ (อาจารย์เสริม)เจ้าอาวาสวัดชากหมากป่าเรไร เจ้าคณะตำบลสำนักท้อน อ.บ้านฉาง ทั้งนี้โดยได้รับการสนับสนุนทุกปี จาก นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และนายสุรินทร์ (คี้) เปาอินทร์ สจ.เขต ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และหน่วยงานข้าราชการผู้เกี่ยวข้องเดินทางมาร่วมงานกันอย่างมากมาย

*** โดยช่วงเช้า มีการจัดขบวนแห่ “พระซุ้ม” ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาว บ้านร้านค้า ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง แห่ขบวนไปรอบตลาดบ้านย้ายร้า เพื่อให้ประชาชนสักการบูชา และสรงน้ำตามประเพณี พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา-หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธธรรมบ้านฉาง คอยอำนวยความสะดวกตามท้องถนนหนทางต่างๆ ท่ามกลางสนุกสนานเฮฮาของเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวสาดน้ำเล่นกันอย่างคึกคัก!!

*** ในวันเดียวกัน ช่วงบ่ายพระภิกษุและสามเณร 159 รูป ได้ มานั่งเรียงหน้ากระดานหันหลังชนกันเพื่อให้ชาวบ้านสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล และช่วง เย็นยังมีกิจกรรมการแสดงของนักเรียน และการแสดงคอนเสิร์ตของคณะดารานักร้อง-นักแสดงละครทีวีช่อง 7 สี มาร่วมงานให้ความบันเทิงกันอย่างเต็มอิ่ม

*** ดังนั้น การเล่นรดน้ำระหว่างเด็กๆ และหนุ่มสาววัยรุ่น" ถือว่าเป็นกิจกรรมหลักและได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสงกรานต์ไปแล้ว ซึ่งแต่เดิมนั้น การเล่นสาดน้ำมักเล่นกันเฉพาะในหมู่ญาติมิตรเพื่อนฝูงเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกันโดยจะใช้น้ำสะอาดผสมน้ำอบ หรือน้ำหอม และเล่นสาดกันด้วยความสุภาพ มีไมตรีต่อกัน อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปบ้างแล้วแต่ท้องถิ่น ทั้งนี้ขึ้นกับความเหมาะสมและความต้องการของชุมชนนั้นๆ เป็นสำคัญ

*** โดยผู้ที่เดินทางไปเล่นสงกรานต์ตามวัดในจังหวัดนั้นสิ่งหนึ่งที่แตก ต่างจากการเล่นสงกรานต์ในเมือง คือ ก่อนที่จะเล่นสาดน้ำกันนั้น จะมีการสรงน้ำพระ ซึ่งมี ๒ แบบ คือ การสรงน้ำพระพุทธรูป และการสรงน้ำพระภิก ษุ-สามเณรทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการแสดงความเคารพต่อปูชนียบุคคลผู้สืบทอดพระศาสนา

*** ขณะเดียวกัน ก็มีวัดหลายแห่งยังเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนมานั่งต่อท้ายพระเณรอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เป็นการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนทำให้ท่านเมตตาเอ็นดู และการที่ท่านให้พร ก็เป็นการเตือนสติให้เราเริ่มต้นชีวิตด้วยความไม่ประมาท

*** ส่วนผู้ที่ไปสรงน้ำพระในวัดอันเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวมอญหรือที่เรียก ว่าวัดมอญนั้น ข้อสังเกตที่เกี่ยวกับประเพณีการสรงน้ำพระของมอญ นอก จากจะมีรูปแบบของพิธีที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้แล้ว ในการสรงน้ำพระนี้ คนมอญยังมีข้อห้ามมิให้สาดน้ำกันในวัด การที่ห้ามมิให้สาดน้ำกันในวัดนั้น เกี่ยวกับความเคารพเทิดทูนพระพุทธศาสนา และป้องกันบาปมิให้เกิดขึ้นแก่ผู้ที่กระทำไม่ถูกต้อง

*** นอกจากนี้แล้ว พิธีสรงน้ำพระหรืออาบน้ำพระ ในเทศกาลสงกรานต์ของชาวมอญของทุกๆ ปี จะแตกต่างจากคนไทยมาก คือ จะสรงน้ำ หรืออาบน้ำพระกันจริงๆ มิใช่เพียงแต่เอาน้ำรดที่มือ หรือที่เท้าเท่านั้น คนมอญทุกแห่งจะต้องจัดเตรียมสถานที่สรงน้ำพระ ที่มีลักษณะรูปแบบเหมือนกันหมด มีรางน้ำยาวยื่นจากห้องน้ำ และมีการตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นรางน้ำ สำหรับให้ชาวบ้านเทน้ำลงในรางไหลเข้าสู่ห้องน้ำ บางวัดจะมีถังไม้ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับน้ำไว้ และมีท่อจากถึงปล่อยน้ำให้ไหลออก เพื่อให้พระได้สรงน้ำภายในห้องน้ำได้สะดวกขึ้น

*** สำหรับ การสรงน้ำพระภิกษุสามเณรปกติทั่วไปแล้วก็จะนิมนต์พระในวัดนั้นๆ มาสรงน้ำ ถ้าเป็นวัดเล็กก็จะมีพระสงฆ์สามเณรไม่กี่รูป หากเป็นวัดใหญ่ก็อาจจะมีหลักสิบรูป แต่งานการสรงน้ำซุ้มและสรงน้ำพระร้อย ของวัดสุวรรณรังสรรค์หรือวัดยายร้าต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ทางวัดได้นิมนต์พระจากวัด ๑๖ แห่งกว่า ๒๐๐ รูป ในอำเภอมาร่วมพิธี โดยมีพุทธศา สนิกชนมาร่วมงานนับหมื่นคน จนกลายเป็นว่า "สรงน้ำพระร้อยของวัดยายร้ากลายเป็นงานสงกรานต์สุดท้ายและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก"

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวนสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมสรงน้ำพระซุ้มและสรงน้ำพระร้อยจัดขึ้นทุกๆปี ในวันที่ ๑๘ เมษายน และถือเป็นวันไหลของชาว อ.บ้านฉาง โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในพื้นที่อ.บ้านฉางจำนวนกว่า 200 รูป มาให้ประชาชนร่วมสรงน้ำ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอ กาสให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำขอพรพระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจาก ยังมีกิจกรรมการแสดงของนักเรียน และการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องชื่อดังจากค่ายต่างๆมาร่วมให้ความบันเทิงแก่ผู้ที่เข้ามาร่วมงานกันอย่างคึกคัก !! นะครับเจ้านาย..!?!

P34

"บุกจู่โจมตรวจค้นนักโทษเรือนจำกลางระยองฮิ!!"





*** ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า นายชัยณรงค์ เศวตจินดา ผู้บัญ ชาการเรือนจำกลางจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปราโมทย์ คงคาลัย หัว หน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดระยอง(หน.นปพ.ระยอง) และนายจีระศักดิ์ ตะปะโจทย์ ป้องกันจังหวัดระยอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสา สมัครรักษาดิน แดนกว่าร้อยเข้าตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือน จำกลางจัง หวัดระยอง หมู่ 9 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

*** จากการตรวจค้น ได้พร้อมของกลางสิ่งต้องห้ามบางชนิด เช่น เข็มสักลาย มีดปอกผลไม้ แหนบถอนผม ช้อนส้อมต่างๆ จึงยึดไว้เป็นของกลาง เจ้าหน้าที่ ได้เรียกผู้ต้องขังออกจากโรงนอนตามแดนต่างๆ มาอยู่รวมกันและจู่โจมเข้าตรวจค้นตามโรงนอนต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 6 โรงนอน โดยผู้ต้องขังต่างแตกตื่น เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางต้องใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ต้องขังอยู่ในความสงบ และควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดไม่มีเหตุอันใด*** นายชัยณรงค์ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ว่า ในการตรวจค้นครั้งนี้ได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย 20 นาย ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา 20 นาย ตำรวจ สภ.ปลวกแดง 20 นาย กำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดระยอง20 นาย กำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.นิคมพัฒนา 10 นาย กำลังอาสาสมัคร รักษาดินแดน อ.ปลวกแดง 10 นาย และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษเรือนจำกลาง 20 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางระยอง 50 นาย เข้าจู่โจมพื้นที่แดนเป้าหมายเพื่อตรวจค้นสิ่งต้องห้ามหรือยาเสพติดต่างๆ

*** สำหรับ รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างจริงจังโดยได้มอบนโยบายและได้สั่งการให้กระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้องไปดำ เนินการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดตามภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล โดยการปิดล้อม ตรวจค้น จุบกุม เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายยาเสพติดแพร่ระบาดไปยังกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ต้องขังในเรืองจำกลางระยอง

*** เรือนจำกลางระยอง มีภารกิจหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามคำพิพากษาของศาล และคำสั่งของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ กรมราชทัณฑ์กำหนดให้เรือนจำกลางระยองเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษสูงสุดตลอดชีวิต ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 4,223 คน (ผู้ต้องขังชาย 3,5 44 คน ผู้ต้องขังหญิง 679 คน) ในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด จำนวน 2,316 คน คิดเป็น 53.40% ของผู้ต้องขังทั้งหมด ผู้ต้องขังยาเสพติดบางส่วนมีกำหนดโทษสูง ย้ายมาจากเรือนจำและทัณฑสถานอื่น เช่น เรือนจำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมถึงเรือนจำ และทัณฑสถานภาตตะวันออก

*** ซึ่งผู้ต้องขังดังกล่าวบางกลุ่มจะมีบุคคลภายนอกซึ่งมีอิทธิพลทางการเงินมีขบวนการค้ายาเสพติดคอยให้ความช่วยเหลือดูแลอยู่ตลอดเวลา เช่น มีการแอบซุกซ่อนยาเสพติดหรือโทรศัพท์มือถือส่งเข้าไปในเรือนจำ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อซื้อขายยาเสพติดทางโทรศัพท์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามตัดวงจรไม่ให้ยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามหลุดเข้าไปในเรือน จำ และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการผลิต ซื้อขายยาเสพติดในทุกพื้นที่ของจัง หวัดระยอง เป็นการดำเนินงานตามนโยบายภารกิจเร่งด่วนของกระทรวงยุติ ธรรม และกระทรวงมหาดไทย

*** ดังนั้น เรือนจำกลางระยองจึงได้ทำโครงการ “ตรวจค้นยาเสพติดและสิ่ง ของต้องห้ามในเรือนจำ” ขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำงานบูร ณาการสนธิกำลังร่วมกันโดยมีเป้าหมายในการจู่โจมตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษที่เรือนจำกลางจังหวัดระยอง

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจค้นครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ยาเสพติด และสิ่งของต้องห้ามอยู่ในเรือนจำ เป็นการตัดวงจรผู้ค้า ผู้ผลิต และผู้เสพให้ลดจำนวนลงหรือหมดไปในที่สุด ปัญ หาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระยองได้รับการแก้ไขและเบาบางลง เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันในการป้องกันปราบปรามในการแพร่ระ บาดของยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและดำเนินงานตามเป้าหมายของรัฐบาลตามลำดับต่อไป.

P33

"วันเด็กแห่งชาติ..สนามบินอู่ตะเภา"



***ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า บรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่บริเวณลานจอดเครื่องบิน ด้านหน้าหอบังคับการบิน สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง
จ.ระยอง โดยมี..น.อ.อดินันท์ สุนทรารักษ์ ผู้บังคับการสถานีการบิน กองการบินทหารเรือ และตำแหน่งรองผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภาโดยเป็นประธานร่วมดำเนินการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ สนามบินอู่ตะเภา
ซึ่งในครั้งนี้ได้มีประชาชน ผู้ปกครอง ที่นำบุตรหลานมาเที่ยวชมนับหมื่นคน โดยทางกองบิน ได้กำหนดเส้นทางให้เดินรถทางเดียว และเปิดช่องทางเข้า-ออกอย่างเป็นระเบียบ โดยกำหนดเส้นทางภายในพื้นที่จัดงาน ให้มีเจ้าหน้าที่ของทหารเรือทุกระดับชั้น และมีหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธธรรมบ้านฉาง,หน่วย กู้ภัยสยามร่วมใจ คอยกำกับช่วยกันดูแลแนะนำเส้นทาง ช่วยกันอำนวยความสะดวกทุกจุด เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัด ที่บริเวณถนนสายสุขุมวิท อ.บ้านฉาง จ.ระยอง .

*** เมื่อเข้ามาถึงภายในงานจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีการเรียกตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระของผู้เข้าร่วมงานโดยละเอียด เพื่อตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิด และอาวุธ เป็นหนึ่งในการรักษาความปลอด ภัย และความมั่นคงของกองทัพบิน มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร สายตรวจเดินเท้า และจนท. นอกเครื่อง แบบคอยสอดส่องดูแลตลอดเวลาทั่วทั้งงาน สำหรับการแสดงมีการนำเครื่องบินรบทุกรูปแบบ เช่น เฮลี คอปเตอร์ เอฟ15 เอฟ16 เครื่องบินไอพ่นต่างๆ และเครื่องบินบรรทุกขนาดใหญ่ รถถังหุ้มเกาะสะเทินน้ำสะเทินบก กองพันลาดตะเวน, ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน สอ.รฝ. หน่วยดับเพลิงกู้ภัยฉุกเฉินกองทัพเรือ ให้เด็กและเยาวชนได้ร่วมชมกันอย่างใกล้ชิดสนุกสนาน และร่วมถ่ายภาพกับเหล่าทหารเรือหน่วยสังกัดต่างๆไว้เป็นที่ระลึก

*** น.อ.วิรัตน์ ก้อนทอง รองหก.กฐบ.สนบ.กบร.(นักบินอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา) ได้แนะ
นำชมเครื่องบินต่างๆพร้อมเด็กผู้ปกครองที่มาร่วมงานวันเด็ก มีการแสดงบินลาดตระ เวนหาข่าวด้วยเครื่อง
บินเล็ก,การแสดงการบินสกัดกั้น และรบในอากาศ,การแสดงค้นหา และช่วยชีวิต,การโจมตีทางอากาศ,การแสดงทิ้งดิ่งโดดร่มเหินเวหาจำนวน 50 นาย และการแสดงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ การแสดงสุนัขทหาร
มีการจัดนิทรรศการอาวุธยุทโธปกรณ์ของ..กองทัพ เรือ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับอาวุธเบื้องต้น มีจุดบริการแจกของ ขวัญ และอาหารฟรีตลอดทั้งงาน รวมถึงการแสดงของเด็ก เยาวชนอีกมากมายสนุกสนานจริงๆ

*** ส่วนที่ บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กองทัพเรือ โดยมี..น.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการเรือ เรือหลวงจักรกรีนฤเบศ,เรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งได้เปิดโอกาสให้เด็กๆเข้าเดินชมภาย ในท้องเรือ และภายนอกด้านบนเป็นลานเวย์จอดเครื่องบินรบต่างๆ และชมการแสดงของ..เครื่องบินเฮลี คอปเตอร์
แสดงท่าผาดโผนเหวียงรอบตัวน่าต่างๆ เป็นที่น่าหวาดเสียวตื่นเต้นระทึกใจ ท่ามกลางผู้ชมจำ นวนมาก ทั้งได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือในสังกัดต่างๆ จัดนิทรรศการทางทหาร อาทิ เช่น ปืนใหญ่ รถถัง รถหุ้มเกราะลำเลียง อาวุธที่ใช้ในสง คราม และอุปกรณ์การกู้ภัย เพื่อเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์เบื้องต้น และยังเปิดโอกาสให้ประชา ชน เด็ก และเยาวชนได้สัมผัส ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างคึกคัก

*** สำหรับ บรรยากาศวันเด็กแห่งชาติครั้งนี้ มีหน่วยงานราชการหลายแห่งได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติเพื่อให้เด็กๆ และผู้ปกครองได้เที่ยวชม เพื่อเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์และเปิดโอกาสให้เยาวชนได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ โดยเฉพาะที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และการชมเรือหลวงจักรกรีนฤเบศ จุกเสม็ด ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีการจัดแสดงยุทธทางอากาศให้กับเด็กๆ และผู้ปกครองได้รับชมทุกปี ทั้งการแสดงด้านการบินของเครื่องบินรบ การแสดงการบินขับไล่ แสดงของเฮลิคอปเตอร์ แสดงของสุนัขตำรวจ อย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวสรายงานเพิ่มเติมว่า ในการจัดงานวันเด็กแห่งชาติทุกปี จึงต้องประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายตลอดเวลาในเรื่องของข้อ บังคับ ข้อห้ามต่างๆ ที่กำหนดไว้ในการเข้าชมการแสดง แต่ปัญหาส่วนใหญ่คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การสูบบุหรี่ การก่อให้เกิดประกายไฟ การถ่ายภาพในจุดหวงห้าม ฯลฯ ส่วนมาตรการป้องกันบุตรหลานพลัดหลงภายในงาน ควรเขียนรายละเอียด ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อใส่ไว้ในกระเป๋าของบุตรหลาน นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เข้าชมเครื่องบินต่างๆอย่างใกล้ชิด อีกทั้งส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชนได้จัดบู๊ทแสดงนิทรรศการของหน่วยงานพร้อมทั้งนำขนม-เครื่องดื่มไอศกรีมมาแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ ทำให้เด็กและผู้ปกครองหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมงานนับหมื่นๆคน สร้างบรรยากาศงานวันเด็กได้อย่างคึกคักที่สุด..

P32

"เชิญเที่ยวชม..ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดลุ่มมหาชัยชุมพลระยองฮิ"






*** ปัจจุบัน ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งวัดลุ่มมหาชัยชุมพล เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทีสำคัญแห่งหนึ่ง ของจังหวัดระยอง ซึ่งมีผู้เดินทางมาสักการะเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในการกอบกู้เอกราชให้ผืนแผ่นดินไทยอยู่เสมอ

*** ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ซึ่งชาวบ้านมักเรียกสั้นๆ ว่า “วัดลุ่ม” เป็นที่ประดิษฐานพระรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินถึง 2 พระองค์ โดยนางทองปานภู่สุวรรณ ได้ฝันไปว่า พระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จมาเข้าฝัน และมีพระราชดำรัสว่าพระองค์ไม่มีที่ประทับ นางทองปานจึงสร้างศาลถวายพร้อมหล่อพระบรมรูปประทับยืนด้วยทองเหลือสูง 70 ซม. และต่อ มาในปี พ.ศ.2503 จึงมีการหล่อพระบรมรูปองค์ใหม่ขนาดเท่าองค์จริงในท่าประทับนั่งสง่างาม บริเวณด้านหน้าของศาลนั้นมีต้นสะตือขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี

*** ดังนั้น วัดลุ่มมหาชัยชุมพล ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ในการกอบกู้เอกสารของพระ องค์ โดยกล่าวว่าเมื่อครั้งที่พระองค์ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกจากกรุงศรีอยุธยามาถึงระยอง ในคราวที่ยังทรงพระยศเป็นพระยาวชิรปราการ พระองค์ทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ต้นสะตือนี้ และใช้เป็นแหล่งรวบรวมไพร่พล ก่อนที่จะยกทัพไปตีเมืองจันทบุรี และใช้เป็นที่ตั้งมั่นในการกลับมากอบกู้อิสรภาพจนสำเร็จในเวลาต่อมา

*** เกี่ยวกับเรื่องวัดลุ่มมหาชัยชุมพล เดิมทีศาลแห่งนี้มีลักษณะเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2477 ต่อมาได้มีการสร้างศาลหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเดิมในปี พ.ศ. 2507 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงจัตุรมุขทีบริเวณต้นสะตือใหญ่แห่งนี้ เพื่อเป็นพระบรมราชนุสรณ์ และสถานที่ที่ให้ประชาชนทั่วไปมาสักการะและน้อมรำลึกถึงวีร กรรมอันกล้าหาญของพระองค์

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า สถานที่ตั้งวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถนนตากสิน-มหาราช อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งมีเส้นทางห่างจากศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ประมาณ 1,500 ม. ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกันว่าพระบารมีของพระองค์จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้มีแต่ความสุขเป็นสิริมงคล มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นและยังเชื่อกันว่าสามีภรรยาที่มีบุตรยาก หากมาขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งนี้แล้วมักจะสมดังใจปรารถนาไปแล้วหลายคู่ เทศกาลงานประเพรี มีการจัดงานสมโภชศาลแห่งนี้เป็นประจำในช่วงเทศกาลตรุษจีน และทุกวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี จะมีการทำ บุญตักบาตร ถวายพวงมาลา และเครื่องราชสักการะ เพราะเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระ องค์ โดยเปิดให้สักการะทุกวัน.

P31

"งานมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต"


***เก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้าเพื่อนำดวงวิญญาณพเนจรที่ไร้ญาติ ตามสถานที่ต่าง ๆ ส่งท่านขึ้นสู่ มาตุภูมิชั้นบน เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและดวงวิญญาณทั้งหลายเพื่อนำสิ่งอัปมงคลไปจากครอบครัวของท่านและให้พบแต่ความสุขความเจริญสิ่งที่เป็นมงคลแก่ครอบครัว และจะเริ่มงานบุญมหากุศลเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า ในเครือสหพ่งไล้ ครั้งที่ 4 ของขลุงมูลนิธิ พ่งไล้ยี่เซียวเกาะ อ.ขลุง จ.จันทบุรี
วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2553 พิธีเปิดป่าช้าเป็นปฐมฤกษ์ (ไคบ้อซัว)วันจันทร์ที่ 1 ถึงวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553

P30

"พระนอน"

*** ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ อาสาพาไปทุกท่านรู้จักกับ.. วัดป่าประดู่ อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ถนนสุขุมวิท เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ. 25 33 ภายในวิหารมีพระนอนขนาดใหญ่ ยาว 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร เป็นพระพุทธไสยาสน์ซึ่งประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย เดิมอยู่กลางแจ้ง ต่อมาสร้างวิหารครอบเมื่อปี 2524 ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองระยองฮิ ใครไปอธิฐานขอพรจะสมหวังทุกประการ และมีงานสมโภชประจำปีในช่วงตรุษจีนตลอดมา


*** ดังนั้น ท่านที่จะเดินทางไปเที่ยวเที่ยวที่วัดป่าประดู่ วัดหลวงแห่งหนึ่งที่มีความสวยสดงดงามในจังหวัดระยอง สามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก จากถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านตัวเมือง จังหวัดระยองจุดสังเกตคือ ผ่านโรง พยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่จะถึงวัดป่าประดู่ เส้นทางที่ 2 จากถนนสาย 36 (บายพาส) ถึงสี่แยกเกาะลอย ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนจันทอุดม ผ่านตัวเมืองจังหวัดระยอง พอถึงสามแยกโรงพยาบาลให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่จะเห็นวัดป่าประดู่ ท่านจะสุขกายและสบายใจกับความสงบสุขอย่างมิรู้ลืมเลยนะจ๊ะ..

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

P29

"ที่มาบตาพุด"




***ได้รับแจ้งเหตุ เวลา 07.50 น.โดยประมาณ เกิดไฟไหม้รถเก๋งยี่ห้อ Datsun บริเวณก่อนถึงสี่แยกไฟแดง ขาเข้าถนน I-4 ข้อมูลเบื้องต้น ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

P28

"กินลม ชมว่าวยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก"





*** เรื่องราวจัดงานทศกาลกินลม ชมว่าว โดยทัพเรือภาคที่ ๑ ร่วมกับอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้จัดงานประจำปีมหกรรมกีฬารับฤดูหนาว กินลม ชมว่าว ชายหาดพยูน ในช่วงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี โดยจะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ นำโดย พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นประธานในพิธีเปิดฯ

*** นายเหรียญ นิจรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เปิดใจทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ว่า การจัดงานประจำปีมหกรรมกีฬารับฤดูหนาวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเล่นว่าวบริเวณชายหาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการส่ง เสริมให้ผู้ประกอบการร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยภายในงานจะมีการนำว่าวยักษ์ ว่าวชนิดต่าง ๆ มาเล่นกันมากมาย มีการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ อาหารพื้นบ้าน และอาหารทะเลในราคาถูกสุดๆ

*** พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เปิดใจกับทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ ว่า การจัดงานในครั้งนี้ กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ ๑ ได้สนับสนุนเรือรบชนิดระบายพล ช่วยในการลากเชือกว่าว ๑ ลำ และส่งว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า ๑ ลำ พร้อมกับเรือตรวจการณ์ชายฝั่งและชุดปฏิบัติการพิเศษ อีกจำนวนหนึ่งในการดูแลรักษาความปลอดภัยในทะเล เพื่อความปลอดภัยในงานเทศกาลเกินลม ชมว่าวยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมงานประจำปีมหกรรมกีฬารับฤดูหนาว ชมความประทับใจที่ชายหาดพยูน อันเต็มไปด้วยว่าวยักษ์ ว่าวน้อยใหญ่ ว่าวหลากหลายชนิด หลายสีสัน เต็มท้องฟ้าชายหาดพยูน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยจะจัดงานเทศกาลเล่นว่างยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงระหว่างกลางเดือนธันวาคมของทุกปี ใครสนใจแข่งขันชิงรางวัลชักว่างยอดเยี่ยม อย่าลืมอ่ะ!!

P27

"แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลหาดสวรรค์ในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ"





*** ระยองวันนี้..เป็นที่รู้จักกันดี นับว่าเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วทรัพยากรธรรม ชาติที่สวยสดงดงามยิ่งนัก ดั่งคำขวัญที่ขึ้นชื่อว่า.. “ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภูกวีเอก” โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว..หาดน้ำริน-พยูน และพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เป็นชายหาดทะเลที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง สำหรับผู้ที่ชอบอนุรักษ์ธรรมชาติและความสะอาดสดใส และเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาพื้น ที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย อันมีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประ เทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พักอาศัย และอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆมากมาย เพื่อเข้ามามีบทบาทสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้น

*** นายเหรียญ นิจรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เปิดใจกับทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ว่า โครงการพัฒนาปรับปรุงก่อสร้าง..สำนักงานเทศบาลตำ
บลบ้านฉางและบริเวณชายหาดชายหาดน้ำริน-หาดพยูน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากคณะรัฐมนตรีให้มีมติเห็นชอบผลการศึกษา จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ โดยการจัดสรรงบประมาณเพ่อรักษาคุณภาพ และพัฒ นาแหล่งท่องเที่ยวที่เห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติการและประสานงานกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาขอรับการสนับสนุนกู้เงินจากธนาคารโลกและธนา คารพัฒนาเอเชียแทนการใช้งบประมาณเพื่อรักษาสุขภาพและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

*** สำหรับ การใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นจำนวนมากพร้อมเงินกิจกรรม เช่น งานอาคารบริการ, งานถนน, งานมติมากรรม, งานไฟฟ้า, เพื่อเป็นการพัฒนาก่อสร้างและแหล่งท่อง เที่ยวต่างๆในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว โดยมีแผนงานโครงการก่อสร้างสถานที่สำ นักงานเทศบาลตำบลบ้านฉางแห่ง ใหม่ ในพื้นที่กว่า 20 ไร่ เพื่อจะสร้างสนามกีฬาต่างๆ เช่น สนามฟุตบอล, เทน นิส, บอลเล่บอล ให้อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด และยังหาพันธุ์ไม้ต่างๆที่รับประ ทานได้ เช่น ต้นขี้เหล็ก, สะเดา และสะตอ เพื่อนำมาปลูกบริเวณต่างๆ เพื่อจะได้ดอกและผลไว้เก็บรับประทานได้อีกด้วย

*** กำนันสุชิน พูลหิรัญ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เปิดใจทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ว่า สำหรับในการจัดแผนโครงการพัฒนาปรับปรุงชายทะเลหาดน้ำริน อ.บ้าน ฉาง เพื่อให้ เกิดความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ให้มีความสวยงามตามธรรมชาติที่ดีที่สุดในภาคตะวันออก เพื่อที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวกันจำนวนมาก นับว่าเป็นการสร้างงานสร้างเงินได้ดีอีกทางหนึ่ง นอกจากชายหาดนำริน โดยแนวชายหาดติดต่อกันนั้น ยังมีชายทะเลหาดพยูนใหม่เพื่อให้นักท่องเที่ยวสนุกเพลิด เพลิน และชายทะเลหาดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จะได้เจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น

*** นายสุทธา เหมสถล นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม อ.บ้านฉาง-มาบตาพุด จ.ระยอง เปิดใจกับทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ว่า ในส่วนของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวและสิ่งแวด ล้อมฯ ได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดน้ำรินและหาดพยูน อ.บ้านฉางให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ และได้นำเสนอการก่อ สร้างท่าเทียบเรือเล็กไว้สำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อนำเรือเร็วเดินทางไปเที่ยวดูปะการังที่มองเห็นได้ชัดเจน และไปเที่ยวชมเกาะเสม็ด, เกาะแสมสาร, และเกาะสะเก็ด, และอยู่ในระหว่างเสนอแนวทางทำท่าเทียบเรือไว้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง..

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว นสพ.จันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า อย่าลืม!! เชิญชวนทุกท่านไปเที่ยวชายหาดทะเลที่สวยงามสดใสเป็นธรรมชาติ ที่บริเวณหาดน้ำริน, หาดพยูน และหาดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมีทางแยก จากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม.191 แยกเข้าไป 8 กม. ถึงชายทะเล จะมีถนนเลียบชายหาด เมื่อถึงสี่แยกน้ำนำริน เลี้ยวซ้ายไปท่าเรือมาบตา พุด- เลี้ยวขวาไปหาดพยูน ซึ่งเป็นหาดทรายสะอาดสวยหรูตามธรรมชาติเป็นแนวยาวต่อเนื่องกัน มีที่พักอาศัย ทั้งประเภทโรงแรม และบังกะโล สำหรับบริการนักท่องเที่ยวชายไทยและต่างชาติ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อยใจช่วงวันธรรมดา หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไปแล้วท่านจะติดใจยอมรับว่าเยี่ยมจริงๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับเพชรเม็ดงาม หาดสวรรค์ในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติในจังหวัดระยองจริงๆ..

P26

"ระทึก!! รถทัวร์ระยองหวิดบึ้มไฟไหม้หนีตายอลหม่าน"




*** เหตุการณ์ระทึก!! รถทัวร์หวิดบึ้มห้องเครื่องร้อนระอุเกิดไฟลุกไหม้ท่วม ต่างกระโจนหนีตายอลหม่าน ที่บริเวณทางแยกหัวสนามบินอู่ตะเภา ถนนสุขุมวิท ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เดชะบุญที่ไม่มีใครเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บถูกห้ามส่งรพ.กันระนาวรายนี้

*** ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ได้รับรายงานว่า มีเหตุรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ระยอง เกิดเหตุเพลิงไหม้รถทัวร์และมีผู้โดยสารจำนวนมาก ที่บริเวณถนนสุขุมวิท แยกหัวสนามบินอู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยต่างๆ รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถโดยสารปรับอากาศ เพลิงกำ ลังลุกไหม้ช่วงใต้ห้องเครื่องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้โดยสารกำลังนอนหลับฝันหวาน ต้องสะดุ้งเพราะไอความร้อนระอุไหม้ขึ้นมา ต่างอกสั่นขวัญผวารีบเผ่นกระโจนหนีตายกันอย่างวุ่นวาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบสกัดกั้นไฟลุกไหม้รถทั่วร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้อย่างหวุดหวิดย่างสดทั้งคัน

*** จากการสอบสวนนายพรเทพ ศรีสมาน อายุ 47 ปี กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานขับรถ ทัวร์ปรับอากาศสายกรุงเพฯ-ระยอง หมายเลขข้างรถ 135-5 ทะเบียน 13-3639 กทม. เป็นรถร่วมบริการของบริษัทยักใหญ่แห่งหนึ่งของภาคตะวันออก โดยก่อนเกิดเหตุตนวิ่งรถออกมาจาก จ.ระยอง เพื่อมุ่งหน้าไป กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้โดยสานประมาณ 20 คน ตนสังเกตเห็นความผิดปกติของรถในช่วงที่ขับมาถึงหน้า อ.บ้านฉาง และขับมาเรื่อยๆ จน กระทั่งใกล้ถึงแยกหัวสนามบินอู่ตะเภา ตนได้กลิ่นเหม็นไหม้แต่ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน จึงขับรถชะลอเพื่อหาที่จอดรถข้างทาง จู่ๆได้เกิดควันสีดำพวยพุ่งมาจากใต้ท้องรถ และเกิดเสียงระเบิดขึ้นมีลุกไหม้ไฟท่วม ตนจึงตะโกนให้ผู้โดยสารรีบโดดลงจากรถทันที

*** นายพรเทพกล่าวต่อว่า รถที่ขับอยู่ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ คือน้ำมัน และก๊าซเอ็นจีวี ช่วงที่ขับมานั้น ได้ใช้เป็นระบบก๊าซ ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น การตรวจเช็กระบบการทำงานของเครื่องยนต์และเชื้อเพลิง ก็เป็นไปตามที่บริษัทกำหนดไว้สำหรับการตรวจซ่อมบำรุงก็ทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว เดชะบุญที่ยังโชคดีไม่พบว่า มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับความเสียหายของตัวรถทัวร์ลุกไหม้เกือบทั้งคัน ในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ทางผู้โดยสารได้กลิ่นเหม็นไหม้จากใต้ท้องรถมาก่อน หลังจากนั้นก็เกิดประกายไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว

***อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า ในเบื้องได้มีประสานหน่วย งานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายให้เข้ามาตรวจสอบ ว่าสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากเชื้อเพลิง ที่เป็นน้ำมัน หรือก๊าซเอ็นจีวี เพราะรถโดยสารปรับอากาศนี้ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบหน้า และฝากไปยังบริษัทเดินรถ โชว์เฟอร์รถทัวร์ และผู้โดยสารต้องช่วยกันระวังคอยเป็นหูเป็นตาด้วย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางทุกครั้ง อย่าประมาท!! นะครับเจ้านาย..

P25

"แม่ใจเหี้ยมฆ่าโหดทารกเพศชาย"




*** เหตุการณ์สุดเศร้าน่าสงสาร เด็กทารกแรกเกิดเพศชายถูกแม่ใจเหี้ยมฆ่าโหดตัดคอ-สับลำตัว และแยกชิ้นส่วน นำไปทิ้งหลุมขยะเขาภูดรอย่างเหี้ยมโหด ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง ยังนอนหลับอร่อยช่วงเช้าไม่นั่งขยี้หูตาอยู่โรงพัก ทันทีที่ได้รับแจ้งว่า พบศพทารกแรกเกิดถูกฆ่าโหดแยกชิ้นส่วนนำมาทิ้ง บริเวณกองขยะเขาภูดร ถนนบ้านฉาง-เขาภูดร หมู่ 7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำ ดับชั้น พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บ้านฉาง และกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสมา คมพุทธธรรมสงเคราะห์บ้านฉาง รีบรุดไปตรวจสอบที่กองขยะดังกล่าว

*** ในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเส้นทางสายบ้านฉาง-เขาเขาภูดร เป็นพื้นที่บ่อเก็บขยะมูลฝอยสารพัดพิษขนาดใหญ่ของเทศบาลรวม 4 แห่ง คือ เทศ บาลเมืองบ้านฉาง, เทศบาลตำบลบ้านฉาง, เทศบาลตำบลสำนักท้อน และอบต.สำนักท้อน บนเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ พบไทยมุงเจ้าเก่าและเจ้าหน้า ที่กำลังตรวจสอบ ถึงกับตะลึง..เมื่อเหลือบไปเห็นศพเด็กทารกแรกเกิด ถูกแม่ใจยักษ์ฆ่าอย่างโหดเหี้ยมนำมาทิ้งห่อด้วยถุงพลาสติกขนาดใหญ่ และแยกชิ้นส่วนอีกด้วย

*** หลังจากนั้น ได้เปิดออกดูพบศีรษะทารกแรกเกิดนอนเปลือยกายล่อน จ่อน สภาพศพถูกหั่นคอจนขาด เริ่มขึ้นอึดส่งกลิ่นโชยออกมา ห่อหุ้มด้วยถุงสีดำ และห่างกันประมาณ 100 เมตร พบลำตัวทารกแรกเกิดเพศชายไม่สวมเสื้อผ้าห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกเช่นกัน หมกไว้ที่กองขยะอย่างน่าสยดสยองแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน

*** จากการสอบสวนชาวบ้านผู้เก็บขยะขายรายหนึ่ง เล่าให้ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ฟังว่า..ซึ่งในช่วงเช้าตนกำลังเข้าไปหาเศษกระดาษต่างๆ เพื่อเก็บไว้ขาย แต่เดินมาถึงถุงดำขนาดใหญ่มัดปากถุง จึงเปิดออกดูต้องถึงกับตลึงเมื่อเจอศีรษะเด็กทารกแรกเกิดถูกตัดขาดหมกอยู่ในถุง แต่ไม่พบลำตัว จึงออกเดินหาลำตัวมาพบถูกนำมาทิ้งห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติก เมื่อเปิดออกดูพบลำตัวหมกอยู่ในถุง จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

*** ดังนั้น ที่บริเวณดังกล่าว เป็นที่รวมทิ้งขยะมูลฝอยสารพัดพิษ ทั้งขยะ เปี๊ยก, ขยะแห้ง, และขยะกากสารเคมีที่ปละปนหมกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นขยะของเทศบาลทั้ง 3 แห่ง โดยมีรถเก็บขยะของเทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลตำบล และอบต. นำมาทิ้งทั้งมีรถเกด-รถแม็คโคไถ่ไปกองรวม ทิ้งกันแห่งเดียว กระทั่งมีคนเก็บขยะไปเจอเด็กทารกถูกฆ่าทิ้งน่าสยดสยอง

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สัน นิษฐานว่า ศพทารกแรกเกิดอายุประมาณ 1-2 เดือนน่าจะถูกแม่ใจแตกที่ทำ งานขายบริการอยู่ในเมืองบ้านฉาง คลอดลูกแล้วไม่มีปัญญาเลี้ยงดู เลยลงมือฆ่าแล้วนำศพใส่ถุงพลาสติกแยกชิ้นส่วนเด็กทารก แล้วนำไปหมกที่หลุมขยะเทศบาลฯ กระทั่งมีคนมาเจอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำศพส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานสถาบันติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจ สอบอีกครั้ง ก่อนเร่งติดตามจับกุมตัวแม่ใจเหี้ยมรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

P24

"ปตท.ระยองจัดโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติ"




*** ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า.. กลุ่ม ปตท.ระยอง ได้จัดโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติให้เยาวชนในจัง หวัดระยอง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นการสนับสนุนให้เยาวชน ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนให้เกิดประโยชน์ ด้วยการศึกษาและอบรมพระธรรมวินัย ทั้งฝึกสมาธิเพื่อหล่อหลอมจิตใจให้เติบโตขึ้นเป็นคนดี มีคุณ ธรรมมีศิลและมีสมาธิในการศึกษาเล่าเรียน ห่างไกลจากอบายมุข ณ.ที่วัดหนองสนม ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

*** โดยครั้งนี้ ได้จัดพิธีบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้กับเยาวชนในจังหวัดระยอง ระหว่างอายุ 10-13 ปี ณ.ที่วัดหนองสนม ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง โดยมี..นายชาญน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในนามกลุ่ม ปตท.ร่วมกับ..นายชรินทร์ รวมนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดระยอง ซึ่งมีพระครูโอภาส ปุญวัตร์ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดสำเภาทอง รองเจ้าคณะจังหวัดระยอง เป็นพระอุปชาย์ พร้อมด้วย..พระครูสาธร (ธรรมนิเทศ) เจ้าอาวาสวัดหนองสนม ต.นินพระ อ.เมืองระยอง และเป็นประธานศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง เข้าร่วมในพิธีบรรพชาสามเณรดังกล่าว

*** นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหย่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ ว่า..โครงการบรรพ ชาสามเณร นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้เยาวชน ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนให้เกิดประโยชน์ ด้วยการศึก ษาและอบรมพระธรรมวินัย ฝึกสมาธิเพื่อหล่อหลอมจิตใจให้เติบโตขึ้นเป็นคนดี มีคุณธรรมมีศิลและมีสมาธิในการศึกษาเล่าเรียน ห่างไกลจากอบายมุข ทั้งยังได้เรียนรู้ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความสงบและพอเพียง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีน้ำใจช่วยเหลือกัน ในหมู่คณะที่มาจากต่างที่ต่างไว

*** นอกจากนี้ ยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมแก่เยาวชนในการแสดงออก เพื่อทดแทนพระคุณของบุพการี ด้วยการบวชเรียน พระธรรมวินัย นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความปลื้มปิติสู่บิดามารดาและญาติพี่น้องวงศ์ตระกูล เป็นการธำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ดีงามตลอดไป

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า..เกี่ยวกับเรื่องโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติ นับว่าเป็นโครงการที่ กลุ่ม ปตท. จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยในปีนี้ ซึ่งมีเยาวชนเข้าร่วมบรรพชาจำนวน 105 คน โดยมีผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. และผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นผลงานที่เยี่ยมจริงๆ ครับเจ้านาย

P23

"ศิษย์พ่อแก่สักยันต์แล้วเสียบหลังคงกระพันชาตรี"




*** ตำหนัก..พุทธเวชดาบส โดย..พ่อใบ เกาะเพชร (ร่างทรง) ตำหนักสักยันต์หนังเหนียวคงกระพันชาตรี ซอยน้องหนู ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่ตำหนักมีผู้คนเข้าหาไม่ขาดสาย หลายๆคนมักแห่มาที่ตำหนักนี้ บ้างก็มาลง นะเมตรตา บ้างก็มาขอสักยันตร์ต่างๆ บ้างก็มาดูดวง บางคนก็มาอาบน้ำมนต์ บางคนมาเจิมรถ อีกทั้งยังรักษาโรค 108 อัมพฤต อัมพาส รักษาโดยการ..เหยียบเหล็กแดง ทำได้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง..การสักยันต์พ่อแก่ เก้ายอด แปดทิศ เสือสิงห์ หนุมาน ลิงลม ยันต์ห้าแถว และยันต์ต่างๆอีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่จะมาสักต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป จึงจะสักหมึกให้นอกนั้นจะสักน้ำมันว่านให้ เพราะถ้าอายุไม่ถึง 18 ปี จะเข้างานราชการลำบาก เรื่องนี้ทางตำหนักได้วางกฎระเบียบไว้เช่นนั้น จะได้ไม่มีปัญหากับผู้ปกครองที่จะมาสักทีหลัง

*** คอลัมน์นี้ อาสาพาไปสัมผัสเรื่องสักยันต์กันเหนียวกับท่าน..นายทองใบ มูลสาร อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของตำหนักพ่อแก่จอมขมังเวชย์ ตั้งอยู่ซอยน้องหนู หมู่ที่ 4 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับสักยันต์ทั้งหมึกสีดำ และน้ำมันให้กับผู้ที่นิยม ยึดมั่น ถือมั่นกับศาสตร์โบราณ ให้กับประชาชนทั่วไปทั้งชายและหญิง โดยตำหนักพ่อแก่ได้จัดงานไหว้ครูประจำทุกปี ซึ่งมีศิษยานุศิษย์ทั้งหญิงชายจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มวัยรุ่น และวัยกลางคน มาร่วมงานบูชาครูศาสตร์โบราณ สักยันต์ ตลอดจนมีการทำพิธีปะพรมน้ำมนต์เพื่อเสริมความเข้มขลังของอักขระบนผิวหนัง ที่สักด้วยหมึกสีดำ สักน้ำมันบนผิวหนังทั้งด้านหน้า และที่ผ่านมา ปรากฏว่าที่มางานไหว้ครู..กลุ่มวัยรุ่นที่ถอดเสื้อ นั่งพนมมือ ทำจิตใจให้สงบ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา ครู อาจารย์ และคุณอักขระที่อยู่บนผิวหนัง ได้เกิดอาการของขึ้น ส่งเสียงคำรามเสียงร้องดังสนั่นหวั่นไหว ลักษณะคล้ายเสือสมิง บางคนมีอาการต่างๆนานา

*** นายทองใบ มูลสาร เจ้าของตำหนักสักยันต์ เปิดใจกับจันทร์ฮอตนิวส์ว่า..หลังจากงานไหว้ครูที่ผ่านมา ได้มีวัยรุ่นมาสมัครเป็นศิษย์เพื่อสักยันต์ศาสตร์โบราณมากขึ้นกว่าทุก ๆปี เพราะการสักยันต์ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด แล้วแต่ความเชื่อถือของแต่ละคน ซึ่งสังคมในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญในเรื่องศาสตร์โบราณน้อยลงไปทุกขณะ เพราะคิดว่าคนที่สักยันต์เป็นคนไม่ดี เป็นนักเลง สังคมรังเกียจ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ไม่ยอมรับเข้าทำงาน แท้จริงแล้วในอดีตบรรพชน นักรบ ชาย หญิง ก็สักยันต์กันเกือบทุกคน เพื่อเป็นการบรรจุอักขระลงไว้บนผิวหนัง และเชื่อว่าศาสตร์นี้มีความเข้มขลัง หนังเหนียว แคล้วคลาดจากศัตราวุธทุกชนิด ถ้าผู้ที่สักยันต์รักษาศีล ประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นลูกที่มีความกตัญญูต่อพ่อ แม่ ผู้มีพระคุณ และกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้ม ครอง เคยมีลูกศิษย์จำนวนมากมาเล่าประสบการณ์จริง แคล้วคลาดจากศัตราวุธ ยิงไม่ออก แทงไม่เข้า มาแล้วหลายคน

*** ดังนั้น วัยรุ่นชายหญิง ยังยึดติดศิลปะบนผิวหนัง ศาสตร์สักยันต์โบราณ แห่สักหลังพบมีประสบการณ์ยิง ฟัน แทง ไม่เข้าแคล้วคลาด ต้องยึดกติกาถือศีล 5 ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด ไม่ลักขโมย ไม่ผิดเรื่องเพศ ไม่ทำร้ายประเทศชาติ จึงจะอยู่ยงคงกระพันชาตรี โดยการสักยันต์ขึ้นครูใหญ่ 200 บาท ว่าด้วย-ขึ้นครูเล็กบูชาครู 112 บาท ดูดวง-ชะตาราศี-ดูลายมือ-ลายเท้า และแนะนำชะตาชีวิตให้ทุกท่านหลายประการ คือ 1.ลงนะหน้าทอง 100 บาท 2.ลงสาลิกาลิ้นทอง 100 บาท 3.ลงนะเนื้อทองผูกจิต 300 บาท นอกจากนี้ ตั้งศาลพระพรหม-พระภูมิ-เจ้าที่ หรือปรึกษาหาวันตั้งศาลพิธีการต่างๆได้ทุกวันและเวลาที่กำหนด

*** สำหรับ ท่านใดที่มาขอสมัครเป็นศิษย์ จะต้องมีการตกลงกันก่อนว่าจะเป็นคนดี ไม่สร้างปัญหาไม่เป็นขยะสังคมที่น่ารังเกียจ ถ้าผู้ใดที่สักยันต์ไปแล้วประพฤติชั่วจะต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้าย ต้องคมหอก คมดาบ และหายนะ ไม่มีความเจริญในทุกด้าน ใครทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว ผู้ใดทำดี ย่อมได้รับผลดี วัยรุ่นที่มาขอให้สักยันต์จะต้องกล่าวคำสาบานว่าจะไม่ผิดศีลธรรม ไม่ประพฤติชั่ว ถ้าเห็นว่าอายุน้อยก็จะให้พ่อแม่มารับรอง และจะสักด้วยน้ำมันให้ เพราะเด็กต้องเรียนต่อ ต้องสอบเข้าทำงาน ถ้าสักด้วยหมึกสีดำจะทำให้เป็นอุปสรรคกับการศึกษา การสอบเข้าทำงานอย่างแน่นอน

*** อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องสักยันต์กันภัยต่างๆนั้น ใครเป็นลูกศิษย์ต้องให้เคารพกฎหมาย และให้เป็นคนดีของสังคม มีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์และเมืองไทยของเรา ใครมีความศรัทธาสนใจเกี่ยวกับเรื่องสักยันต์คงกระพันธ์ชาตรี หรือปรึกษาเรื่องโชค ชะตาราศีเสดาะห์เคราะห์กรรม โรคภัยใช้เจ็บต่างๆ เชิญติดต่อได้ที่หมายเลข 089 -2513097 เพื่อโทรนัดไว้ก่อน เพราะในเวลากลาง คืนต้องออกตรวจพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเหลือสังคมทุกอย่าง เพราะว่า..พ่อใบ เกาะเพชร (ร่างทรงพุทธเวชดาบส) ท่านได้เป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน และได้รางวัลตำรวจอาสาดีเด่นประจำหมู่บ้านอีกด้วย นะครับเจ้านาย...

P22

"บ้านฉางผวาวิญญาณเฮี้ยนสิงร่างสาวดิ้นพล่าน.."






*** เรื่องราวลี้กลับสุดอาถรรพ์เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาป่าว โบราณว่า “ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่” ขณะที่สาววัย 16 ปี เจอหมอดีมีวิชาทำของเล่นคุณไสย์ ปั้นหุ่นส่งวิญญาณเฮี้ยนสิงร่างสาวดิ้นพล่าน เกิดอาการพร่ำเพ้อละเมอฝันต่างๆนานา ชาวบ้านต่างเชื่อว่าผีเข้าสิงร่างสาว จึงได้นำแหไปครอบร่างสาววัย 16 ปี จากนั้นใช้เครื่องรางของขลัง พระเครื่อง,ตระกรุดห้อยคอ ใช้ใบหนาดเฆี่ยนตีขับไล่ผี และนำแหทอดปลาไปแขวนที่ประตูหน้าบ้านและหลังบ้าน เชื่อว่าเพื่อป้องกันการกระทำคุณไสย์ดำ

*** เหตุการณ์ ผีเจ้าเข้าสิงร่างสาวพร่ำเพ้อดิ้นพล่าน ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ทราบว่า มีหญิงสาววัย 16 ปี มีคนถูกผีเข้าสิงร่าง และมีอาการพร่ำเพ้อพูดเป็นเสียงดุคล้ายผู้ชายอย่างน่าหวาดกลัวแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จากนั้นเหยี่ยวข่าวจึงรีบเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 190/15 หมู่ 3 ซอยตรงข้ามไปรษณี ย์บ้านฉาง ต.บ้าน ฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างสาวกำลังดิ้นพล่านอยู่ภาย ในบ้านไม้สองชั้น บพบว่ามีแหทอดปลาคลอบคุมร่างสาวน่าหวาดเสียวท่ามกลางไทยมุงดูจำนวนมาก

*** นางจรูญ ครุฑทุ่ง อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นแม่สามีสาวผู้ถูกผีเข้า เล่าให้ฟังว่า น.ส.สุมารินทร์ หรือ(สุ) มัจฉาเมฆ อายุ 16 ปี ได้ถูกวิญาณผีเข้าสิงร่างเป็นลูกสะใภ้ตน และอยู่กับลูกชายชื่อนายสมศักดิ์(กุ้ง) ครุฑทุ่ง อายุ 21 ปี โดยก่อนที่ผีเข้าสิงร่างมีอาการประหลาดๆ บางครั้งก็มองจ้องตาโตน่าหวาด กลัวมาก และมีเสียงคล้ายกับผู้ชายมาก ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงน่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเป็นอะไร กระทั่งจู่ๆได้เกิดอาการร้องกรี๊ด และพูดเป็นเสียงผู้ชายว่า“กูจะมาเอาเมียกูคืน”ก็เลยสงสัยว่าผีเข้าสิงร่าง

*** หลังจากนั้น ชาวบ้านได้ช่วยกันจับร่าง น.ส.สุมารินทร์ หรือ(สุ) ขณะที่กำลังร้องโวยวายดิ้นพรวดพลาด จึงช่วยกันนำเครื่องรางของขลังต่างๆมาห้อยคอ แล้วใช้ใบหนาดเหน็บไว้รอบบ้าน และใช้แหทอดปลาหว่านคลุมร่างลูกสะใภ้ทันที ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างปักใจว่า..ถูกผีเข้าสิงแน่นอน เชื่อว่าเป็นวิญญาณปอบหรือคุณไสย์ที่ถูกปล่อยมาจากที่ใดที่หนึ่ง ทำให้มีอาการพร่ำเพ้อพูดเสียงดุ ดันคล้ายเสียงผู้ชายน่าหวาดกลัวแก่บรรดาไทยมุ่งดู ส่วนแฟนใหม่ก็ตกใจและพยายามช่วยเหลือ

*** ต่อมา นายเบญจา เสริมสิน ร่างทรงอาศรมปู่ฤาษีพุทธชัยมงคล ตั้งอยู่เลขที่ 47/1 หมู่ 1 หมู่ บ้านร่วมใจพัฒนา ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงได้เดินทางมาช่วยสาวถูกผีเข้าสิงร่างกำลังดิ้นพล่านท่ามกลางชาวบ้านช่วยกันจับตัวและครอบคลุมด้วยแหทอดปลาน่าหวาดเสียว จาก นั้นร่างทรงปู่ฤาษีฯ ได้ทำพิธีเป่ามนต์สะกดวิญญาณผูกด้ายสายสินจ์ แล้วบอกกับญาติผู้ป่วยว่า ระวังไข้จะขึ้นสูงให้ซื้อยามาให้กินเพราะผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่นมาก เกรงว่าไข้จะขึ้นสูงกว่านี้

*** ด้าน นางสาวสุมารินทร์ หรือ(สุ) มัจฉาเมฆ อายุ 16 ปี หลังจากที่รู้สึกตัวแล้วได้เล่าให้ฟังว่า..ตนมองเห็นดวงไฟคล้ายวิญญาณวนเวียนอยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว เป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว จน กระทั่งตนไม่รู้ตัวว่าเป็นอะไรไป นับว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะว่าตนเคยมีแฟนเก่าคนหนึ่งที่เลิกรากันแล้ว เป็นหมอไสย์ ศาสตร์มีวิชาอาคมชอบปั้นหุ่นฝังรูปฝังรอย ตนคิดว่าแฟนเก่าทำของส่งวิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้มาเข้าสิงร่างตนทำให้ไม่รู้ตัว เพื่อเอาจะเอาตนกลับไปอยู่ด้วยอีกครั้ง

*** อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องไสย์ศาสตร์วิชาอาคมสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์อาถรรพ์ต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น (ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่) สิ่งนั้นอาจจะเกิดกลับตัวของท่านก็เป็นได้ แต่เรื่องของสาวถูกผีสิงร่างครั้งนี้ อาจจะเป็นเรื่องจริงหรืองมงายนั้น ท่านต้องใช้วิจารณญาณกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่ทำพิธีแก้เคล็ดจับแต่งงานขอขมาผีปู่ย่าตายาย ก็ไม่มีอาการผีเข้าหรือเจ็บป่วยเลย

P21

"ชาวระยองฮือฮาขอหวยเด็ด..ควายออกลูกเป็นคน!!"





*** เรื่องราวแปลกประหลาดจริงหนอ!!..เมื่อควายประหลาดออกลูกเป็นคน ชาวบ้านพากันแตก ตื่นแห่กันไปดูเนืองแน่น!!ค่างนำดอกไม้ธูปเทียนไปจุดกราบไหว้บูชาขอโชคลาภ..เพื่อขอเลขเด็ดจากลูกควายประหลาด มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายคนจริงๆ ณ.ที่นี่ที่เดียว นะจะบอกไห้..

*** หลังทราบข่าวแปลกแต่จริง..ทีมข่าวลาดตระเวนนสพ.จันทร์ฮอตนิวส์ จึงรีบเดินทางไปยังเขาห้วยมะหาด บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เจ้าของลูกควายประหลาดแห่งหนึ่งเล่าให้ฟังว่า..แปลกแต่จริงฝังลูกควายประหลาดไปแล้ว แต่บรรพบุรุษมาเข้าฝันขอให้ขุดขึ้นมา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ขณะที่พระสงฆ์เตือนอย่างมงายกราบไหว้สัตว์เดรัจฉานควรปฏิบัติธรรมตามคำสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะดีกว่า..

*** ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานว่า นายปรีดา พันธ์วงศ์ อายุ 52 ปี เจ้าของควายออกลูกเป็นคน เปิดใจว่า..ต้องขออภัยด้วยเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามามากพอแล้ว และจะนำควายออกลูกเป็นคนกลับไปยังบ้านเกิดแดนอีสานบ้านเฮา!!เพราะมีชาวบ้านจำนวนมาก พากันเดินทางมาขอโชคลาภ และนำดอก ไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชากันหนาแน่นจนรับไม่ไหว..

*** โดยเฉพาะ..ลูกควายประหลาด ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคน ถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกัน ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ แต่ว่าลูกควายประหลาดดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว และกำลังขึ้นอืดเริ่มส่งกลิ่นมาบางแล้ว ที่ผ่านมา

*** ขณะที่ชาวบ้านบางส่วน ได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาด และเอาแป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก!! พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธากันอย่างเนื่องแน่นทุกวัน

*** นายปรีดา เจ้าของลูกควายประหลาดรายนี้ เปิดใจว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่ 5 ได้ตกลูกออกมามีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะ ปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมีย และลูกควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรก ตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไปฝังดินไว้

*** แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มี นายวอน สุระชาติ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตนที่เสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันว่าให้ขุดเอาซากลูกควายประหลาดขึ้นมาประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ กับลูกควายประหลาดดังกล่าว พร้อมทั้งขอผ้าขาว 2 ผืน จากตนให้ถวายพระทำบุญไปให้ด้วย

*** ต่อมา ตนและสามี จึงได้พากันไปขุดเอาซากลูกควายประหลาดขึ้นมา นำเอามาล้างทำความสะ อาดและเก็บไว้ที่บ้าน พร้อมได้ไปแจ้งให้บรรดาญาติพี่น้องทราบว่าควายได้ตกลูกออกมามีรูปร่างประหลาดเหมือนคนทุกอย่าง บรรดานักเสี่ยงโชคทราบข่าวต่างแห่กันมาชมเพียบ และกราบไหว้บูชาควายประหลาดกันแน่น ตนจึงไปนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลตามพิธีทางศาสนา หลังจากนั้นเตรียมประกอบพิธีฝังลูกควายประหลาดอีกครั้งหนึ่ง

*** ทางด้าน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังท่านหนึ่ง บอกว่า การที่ชาวบ้านร้านค้าประชาชนพากันไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาด ที่เกิดมาผิดปกตินี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะกระทำได้ แต่ตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้ซากสัตว์เดรัจฉานแต่อย่างใด??

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า..ได้แต่ฝากเตือนพุทธศาสนิกชนชาวระยอง-ชลบุรี ภาคตะวันออก ที่เดินทางไปกราบไหว้บูชาซากลูกควายประหลาด ว่าอย่าไปหลงงมงายเกินไป ควรที่จะประพฤติปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการดำ รงชีวิตประจำวันเป็นการถูกต้องที่สุด แต่เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อบุคคลก็แล้วกัน ครับเจ้านาย..

P20

"เด็กนร.ยอดกตัญญูวัดสระแก้ว..ชกมวยเลี้ยงยายวัย73ปี"




*** มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเป็นกีฬาประจำชาติไทยตั้งแต่สมัยโบราณ มวยไทยเป็นศิลปะการต่อ สู้ที่ร้ายกาจ รุนแรง มหัศจรรย์ แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ของชาติอื่นใด เพราะมวยไทยเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธธรรมชาติ ใช้อวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายเป็นอาวุธได้หลากหลายชนิด เช่น หมัด ศอก เข่า เท้า เข้าทำอันตรายคู่ต่อสู้ โดยปราศจากการใช้อาวุธวัตถุใดๆจากภายนอก ศิลปะมวยไทยเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธมือเปล่าทั้งระยะห่างและใกล้ตัว เป็นการต่อสู้ที่ผสมผสานศาสตร์-ศิลป์ได้อย่างสวยงามและอันตราย ต่างได้รับการยอมรับอย่างแพร่ หลายทั่วโลก เพราะมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเป็นกีฬาสมัครเล่นและอาชีพ

*** “ค่ายายมวยลูกสระแก้ว”ตั้งอยู่ที่ศาลาเกษตรเก่า หมู่ 3 ถนนสระแก้ว-เขาคลอก ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมี..นายบรรพต สุรภาพ อายุ 42 ปี เป็นหัวหน้าค่ายมวยฯ พร้อมทีมงาน นายสุชีพ มุ้ยทองคุ้ง อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 นายบรรเลง ศรีสุทธิ์ อายุ 41 ปี ส.อบต.สำนักท้อน นายมารถณรงค์ สุภาพ อายุ 42 ปี นายเสมา ขาวเจริญ อายุ 63 ปี และนายเทวา สืบโสภา อายุ 29 ปี หรือ“เทวดาน้อย”เป็นครูสอนมวยไทยให้แก่เด็กนักเรียนชายหญิง ป.4 ถึง ม.3 โรงเรียนวัดสระแก้ว และโรงเรียนพลูตาหลวงวิทย์ ซึ่งมีนักมวย 20 คน อายุตั้งแต่ 10-22 ปี คือ 1.ด.ช.ธรรมสรณ์ สระศรี อายุ 11 ขวบ ป.5 หรือ(แรมโบ้ลูกสระแก้ว) 2.ด.ช.ธรรมนูญ สระศรี อายุ 13 ขวบ ม.1 หรือ (คฤหาดสน์เล็กลูกสระแก้ว) 3.ด.ช.อมรรัตน์ มงคลพันธ์ อายุ 10 ขวบ ป.4 หรือ (ซูปเปอร์จ๊าบลูกสระแก้ว) 4.ด.ช.สหรัฐ พิมสุวรรณ อายุ 10 ขวบ ป.4 หรือ (ระฆังทองศิษย์ผู้ใหญ่ชีพ) 5.ด.ช.รุ่งอรุณ กลิ่นสุคนธ์ อายุ 13 ปี ป.6 หรือ (โชคดีลูกสระแก้ว) 6.นายณัฐพล กิตติรักษ์ อายุ 15 ปี ม.3 หรือ(พลังชัยลูกสระแก้ว) 7.นายวรวัฒน์ หอมแขก อายุ 16 ปี ม.6 หรือ(ณรงค์น้อยลูกสระแก้ว) ชกมาแล้ว 70 ไฟล์ (เป็นแชมป์ดาวรุ่งมวยไทยภาคตะวันออก)

*** นายเทวา สืบโสภา หรือ เทวดาน้อย ส.เพลินจิตร เป็นผู้ฝึกสอนมวยให้เด็กนักเรียนด้วยชั้นเชิงแม่ไม้มวยไทยครบเครื่อง เพื่อให้เด็กก้าวสู่สังเวียนกีฬาชกมวยไทย ระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยผู้สอนเป็นนักมวยชื่อดัง เคยเขย่าบัลลังค์แชมป์เปี่ยนมวยไทยเวทีราชดำเนินมาแล้ว ชั่วโมงบินผ่านประสบการณ์ชกมวยไทยมาอย่างโชกโชนกว่า 100 ไฟล์ โดยมีความตั้งใจให้เด็กได้ศึกษาวิชามวยไทยอย่างเต็มที่ และเพื่อให้เด็กสนใจการกีฬาเพื่อหลีกเลี่ยงยาเสพติดต่างๆ ค่ายมวยฯไม่เคยเรียกร้องค่าสอนแต่อย่างใด มีแต่ให้ความช่วยเหลือเด็กทุกคน และเป็นการอนุรักษ์สืบสาสน์วัฒนธรรมแม่ไม้มวยไทย โดยผู้ร่วมฝึกสอนมวยทุกคน มีความจริงใจให้กับเด็กที่มาฝึกซ้อมศิลปะมวยไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติ นอกจากนี้..นายบรรเจิด จิตต์เจริญ หรือ(เสี่ยหยอย) นายกฯทต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง และนายชาตรี เสริมกิจ นายกฯอบต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง ร่วมให้การสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ

*** นายสุขีพ มุ้ยทองคุ้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.สำนักท้อน เปิดใจว่า..“ค่ายมวยลูกสระแก้ว” เปิดโอ กาสให้ลูกหลานทุกคนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ช่วงปิดภาคเรียน ทั้งเป็นการสืบสานอนุรักษ์แม่ไม้มวยไทย ให้เด็กหาความรู้ด้านมวยไทย เพราะสังคมทุกวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปในการยั่วยุ มอมเมาเด็กเยาวชนของชาติให้ลุ่มหลงทางด้านวัตถุ-วิดีโอเกมส์-สถานบันเทิงเริงรมย์และอบายมุขต่างๆ เช่น การพนัน กัญชา ยาฝิ่น เฮโรอีน ผงขาว ทินเนอร์ แล็กเกอร์ กาว ตลอดถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งมีอิทธิพลจูงใจให้เด็กเยาวชนมีความประ พฤติเสีย หายก่อปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้ปกครอง การฝึกมวยไทยเป็นการออกกำลังกายและเพื่อป้องกันตัว และยังฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัย อดทน สุภาพแข็งแรง เป็นคนมีน้ำใจเป็นนักกีฬาต่อเพื่อนฝูงอีกด้วย

*** โดยเฉพาะ เด็กนักเรียนสองพี่น้องยอดกตัญญู ชกมวยเลี้ยงยายเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาเลี้ยงตัวเอง เนื่อง จากมีปัญหาเรื่องพ่อแม่แยกทางกัน สองพี่น้องตัดสินใจไปสมัครชกมวยที่..ต่ายมวยลูกสระแก้ว ผู้นี้คือ ด.ช.ธรรมสรณ์ สระศรี หรือ (แรมโบ้ลูกสระแก้ว) อายุ 11 ขวบ ชั้นป.5 ร.ร.วัดสระแก้ว และด.ช.ธรรมนูญ สระศรี หรือ (คฤ หาสน์เล็กลูกสระ แก้ว) อายุ 13 ปี ม.1 โรงเรียนเดียวกัน เด็กนักเรียนยอดกตัญญูทั้งสอง เปิดใจด้วยน้ำตานองหน้า ว่า..ตนรักชอบอาชีพชกมวยไทย แต่ละครั้งได้ค่าตัว1,000 บาท ก็นึกถึงบุญคุณยายที่เลี้ยงตนทั้งสองคนมา จึงได้นำเงินส่วนหนึ่งไปให้..ยายสำอาง คุ้มเคลือบ อายุ 73 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ม.5 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อไว้เป็นค่าใช้จ่ายยามที่ยายลำบาก ส่วนที่เหลือตนเก็บไว้เป็นค่าขนม และเพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของตัวเอง ตนสองพี่น้องใฝ่ขวัญอยากเป็นอย่างนักมวยเก่งชื่อดัง..สมรักษ์ คำสิงห์ และ สมจิตร จงจอหอ นักมวยทีมชาติไทย

*** สำหรับ เด็กในค่ายลูกสระแก้วชกมวยไทย ได้ค่าตัวครั้งละ 1,000 บาท โดยเจ้าของค่ายมวยจะให้เงินเด็กทั้ง หมด ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น บางคนฝากเงินไว้ที่เจ้าของค่ายผู้ฝึกสอน เพื่อไว้เป็นทุนการศึกษายามจำเป็น บ้างคนก็ไปให้ผู้ปกครองพ่อแม่-ปู่ย่า-ตายายที่มีฐานะยากจน และเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่โรงเรียนเลี้ยงตัวเอง บางรายครอบครัวมีปัญหาพ่อแม่แยกทางกัน ค่ายมวยลูกสระแก้วให้โอกาสเด็กทุกคน โดยพักอาศัยกินอยู่ที่นั่นฟรี!!ด้วยความร่วมมือร่วมใจของ“ค่ายมวยลูกสระแก้ว”เพื่อช่วยกันเหลือสนับสนุนเด็กนักเรียนยากจน ผู้ด้อยโอกาส แต่สนใจชกมวยไทย และเพื่ออนาคตเด็กไทยมีโอกาสก้าวสู่บัลลังค์โลกอย่างกับนักมวยชื่อดังต่างๆ

*** ดังนั้น แม่ไม้มวยไทยมีลีลาชั้นเชิง คือ 1.สลับฟันปลา ใช้ในการป้องกัน และหลบหลีกอาวุธของคู่ต่อสู้ 2.ปัก ษาแหวกรัง ใช้ป้องกันการตอบโต้ เมื่อคู่ต่อสู้เข้าปล้ำและกอด 3.ชวาซัดหอก ใช้ป้องกันหมัดคู่ต่อสู้ และตอบโต้ด้วยศอก 4.อิเหนาแทงกริช ใช้ป้องกันหมัดคู่ต่อสู้และตอบโต้ด้วยเข่า 5.ยกเขาพระสุเมธ ใช้ป้องกันคู่ต่อสู้เหวี่ยงแข้ง และตอบโต้ด้วยการจับทุ่ม 6.ตาเถรค้ำฟัก ใช้ป้องกันหมัดคู่ต่อสู้ และตอบโต้ด้วยการกระทุ้งหมัดขึ้น 7.มอญยันหลัก ใช้ป้องกันคู่ต่อสู้จู่โจมด้วยการยกเท้ายันไว้ 8.ปักลูกหอย ใช้ป้องกันการเหวี่ยงของคู่ต่อสู้ 9.จระเข้ฟาดหาง ใช้ตอบโต้ปรปักษ์ด้วยการเหวี่ยงแข้ง 10.หักงวงไอยรา ใช้ป้องกันการเหวี่ยงแข้งของคู่ต่อสู้ด้วยการจับขา

*** อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้แม่ไม้มวยไทยอย่างแท้จริง ไม่ต้องไปหาอาวุธที่ไหนอยู่ในตัวเราเอง ใครอยากฝึกวิชามวยไทยไว้เพื่อป้องกันตัว หรือเพื่อเป็นนักมวยอาชีพ ลองไปฝึกหัดมวยได้ฟรี!! สำหรับผู้ที่มีน้ำใจจะช่วยสนับ สนุนอุปกรณ์ชกมวยต่างๆ เพื่อให้เด็กนักเรียนไว้ฝึกซ้อมมวยไทยเลี้ยงตัวครอบครัวยากจน

P19

"สาวใหญ่คลอดลูกแฝด3พ่อสุดปลื้มน้ำตาร่วงรพ.ระยอง"



*** เรื่องราวสุดปลื้มใจ..โรงพยาบาลระยองคึกคัก! เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีทำคลอดแฝด 3 คน ด้านคุณพ่อสุดปลื้ม ตั้งชื่อ "เอ -บี -ซี" เกี่ยวกับเรื่องนี้..นพ.นฤทธิ์ อ้นพร้อม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง เปิดใจ.. โรงพยา บาลได้ทำคลอดทารกฝาแฝดเพศชายทั้ง 3 คน ขณะนี้พักอยู่ที่ตึกชนกนารถ ห้องกุมารเวชกรรม โดยมีพยาบาลและพ่อแม่และบรรดาญาติพี่น้องมาเยี่ยมดูแลจำนวนหลายคน ซึ่งคณะแพทย์และพยาบาลกำลังช่วยกันดูแลฝา แฝดทารกน้อยทั้ง 3 คนอย่างใกล้ชิด แฝดทั้ง 3 คน นอนอยู่ในเบาะรถเข็นที่เรียงกัน

*** นพ.นฤทธิ์ เปิดใจกับทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ ว่า นางสมควร เจริญศิลป์ อายุ 40 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี เลขที่ 22/4 ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง ขณะตั้งครรภ์และเกิดอาการเจ็บท้องใกล้จะคลอด โดยทางญาติได้รีบพามา จากนั้นทางคณะแพทย์ จึงรีบนำเข้าห้องคลอดทันที ซึ่งหลังจากตรวจสอบก็พบว่า ทา รกที่อยู่ในครรภ์ฝาแฝดรวม 3 คน จึงทำคลอดด้วยวิธีการให้ผู้ป่วยคลอดเอง ซึ่ง คนแรกที่คลอดออกมา มีน้ำหนัก 1,765 กรัม คนที่สอง มีน้ำหนัก 1,615 กรัม คนที่สาม มีน้ำหนัก 1,760 กรัม พบว่าเป็นแฝดเพศชายทั้ง 3 คน ซึ่งทุกคนมีอาการปลอดภัย แต่ต้องอยู่ในตู้อบ เนื่องจากเด็กมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติทั่วไป

*** ดังนั้น นับเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีของโรงพยาบาลระยอง ที่มีฝาแฝดถึง 3 คน และเป็นการทำคลอดครั้งแรกของโรงพยาบาลที่มีการทำคลอดแฝดสาม หลังจากทำคลอดแล้วทางโรงพยาบาลจะติดตามดูแลครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิด และทางโรงพยาบาลได้เตรียมของขวัญเป็นกรณีพิเศษให้กับทารกฝาแฝดทั้ง 3 คนด้วย ด้านนายเพลินพิศ สุพันทนา อายุ 31 ปี พ่อของแฝดสาม ช่างเชื่อมพนักงานโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ปัจจุบันบริษัทเลิกจ้างเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังศาลปกครองมีคำสั่งระงับชั่วคราว 76 โครงการ ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน ซึ่งการคลอดครั้งนี้เป็นการคลอดท้องที่สอง โดยท้องแรก ได้ลูกชายเช่นกัน หลังภรรยาตั้งท้องได้ 4 เดือน ได้พาไปตรวจหมอบอกว่าเป็นฝา แฝด 3 คน

*** อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจันทร์ฮอตนิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า..ชาวระยองคึกคักแห่ดูสาวใหญ่คลอดลูกแฝด 3 รายแรกแห่ง รพ.ระยอง ทำให้คนแตกตื่นเฝ้ารอถึงวันครบกำหนดคลอด และผู้เป็นพ่อสุดซึ้งทั้งน้ำคาดลอเบ้าแสนดีใจมากที่ได้ลูกแฝด 3 ได้หารือกันแล้วตั้งชื่อว่า ด.ช.พสธร หรือน้องเอ ด.ช.พลิศร หรือน้องบี และด.ช.พศวีย์ หรือน้องซี ครอบครัวถือว่าเป็นความโชคดีของตนพร้อมภรรยา และชาวเมืองระยองฮิ!!